Saturday, September 15, 2007
CPT711
DATA_READ.EXE
Zeichen in eckigen Klammern sind dezimale ASCII-Werte.
Com-Port-Parameter
Baud: (eingestellt in Utilities)
Parity: keine
Datenbits: 8
Stopbits: 1
Der Anstoß der Übertragung beginnt mit dem Senden eines „READ[13]“ zum Terminal.
Das Terminal antwortet bei bestehender Verbindung mit „ACK[13]“.
Danach sendet das Terminal den ersten Record.
Struktur: Nddd...dddHL[13]
N = rotierende Nummer von 0 bis 9, aufsteigend (Wert wird als ASCII(0) bis ASCII(9) besetzt)
ddd...ddd = Daten
H = High-Byte check digit (Wert wird als einzelnes ASCII-Zeichen gesetzt)
L = Low-Byte check digit (Wert wird als einzelnes ASCII-Zeichen gesetzt)
Kalkulation der Checkdigits
Beispielhaft gehen wir von folgendem Record aus:
[0]1234567895[18][2][CR]
Die Summe aller ASCII-Werte von N und der Datenzeichen wird berechnet
[0]+[49]+[50]+[51]+[52]+[53]+[54]+[55]+[56]+[57]+[53] = 530
und quasi in folgende Tabelle eingetragen:
16384 8192 4096 2048 1024 512 256 128 64 32 16 8 4 2 1
Die Spalten „1“ bis „128“ stellen dann den High-Byte Checkdigit dar (in diesem Fall also „18“), die
Reihen „256“ bis „16384“ werden nochmals auf den normalen Binärcode zurückverwandelt.
(16384) (8192) (4096) (2048) (1024) (512) (256)
64 32 16 8 4 2 1
Somit ergibt sich jetzt für den Low-Byte Checkdigit „2“.
Ausnahme: Wenn einer der beiden Checkdigits ASCII 13 ist, wird er auf ASCII 14 gesetzt.
Nach Eingang eines Records vom Terminal zum PC kann man jetzt eine Gegenkalkulation
durchführen und sendet ggfs. ein „NAK[13]“, wenn die Kalkulation nicht das gleiche Ergebnis gebracht
hat. Das Terminal sendet dann den Record nochmals.
Bei korrekter Übertragung sendet man vom PC ein „ACK[13]“ um das Senden des nächsten Records
zu veranlassen.
Nachdem alle Records gesendet worden sind, sendet das Terminal ein „OVER[13]“.
Natürlich kann man die Records auch ohne Checkdigitkalkulation empfangen, man schneidet lediglich
das erste und die letzten beiden Zeichen eines Records weg.
Zur Sicherstellung eines korrekten Datenempfanges empfehlen wir aber eine Gegenprüfung.
DOC-066-02
Friday, August 3, 2007
วิธีแก้ไวรัส Image.zip ที่มากับ MSN ครับ
จะส่งผ่านทาง MSN โดยตัวผู้ส่งเองไม่รู้ตัว
โดยข้อความที่พบคือ
"Hey m8, who is this on the right, in this picture..."
หรือ
LOL, you look so ugly in this picture, no joke...
หรือ
Should I put this on facebook/myspace?
หรือ
Sup, seen the pictures from the other night?
ห้ามรับไฟล์ชื่อ image.zip เด็ดขาด
แต่หากรับมาแล้ว อย่าแตกไฟล์
ใครพลาดแล้ว แก้ไขได้โดย
โหลดตัวแก้ได้ที่
http://www.uploadtoday.com/download/?1c638ac6f39a04ec4d5e40b9ec555c58
หรือ
http://sosvirus.changelog.fr/MSNFix.zip
หรือแก้ไขโดย
เรียก Task Manager (Ctrl+Alt+Del) --> หา winlog32.exe ถ้ามีก็ end process มันซะ --> ไปที่ Start - Run พิมพ์ msconfig --> ดูที่ Startup หา winlog32.exe แล้ว uncheck มันซะ ปิดแต่ยังไม่ต้อง restart --> Search หาไฟล์ winlog32.* แล้วลบทิ้งให้หมด --> Restart เครื่อง --> เรียบร้อยครับ
หรืออีกวิธีคือ การทำ Syetem Restore ไปในวันที่ยังไม่ติดไวรัสเท่านี้มันก็ไม่มากวนใจเราอีกแล้วคับพี่น้อง
Credits :: soccersuck.com , น้องแจ๊ค ม.วลัยลักษณ์ และเพื่อนๆที่โดนส่งมาให้ผม อาทิเช่น earth_coe3@hotmail.com , thitimanakul3@hotmail.com
Turnoff Autoplay on all drives in Windows XP
ในปัจจุบันสื่อเก็บข้อมูลแบบ USB Flash Drive นั้น เป็นที่นิยมใช้งานกันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากราคาที่ไม่แพงและการใช้งานก็สะดวก แต่ว่าในช่วงหลายๆ เดือนที่ผ่านมานั้น มีไสรัสหลายตัวที่ใช้วิธีการแพรระบาดผ่านทาง USB Flash Drive ประเด็นหรือต้นเหตุของปัญหาเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ตัว Flash Drive เอง แต่เกิดจากฟังค์ชัน AutoPlay ซึ่งจะทำหน้าที่เปิดแผ่น CD หรือไดรฟ์ USB โดยอัตโนมัติ
Autoplay นั้นมีประโยชน์ในแง่ของการช่วยอำนวยแก้ผู้ใช้ โดยการเปิดไฟล์มัลติมีเดียที่จัดเก็บอยู่บนสื่อแบบพกพาต่าง เช่น Flash drive หรือ แผ่น CD ให้อัตโนมัติ นั้นคือ เมื่อเราทำการต่อ flash drive หรือ ใส่แผน CD ระบบก็จะทำงานตามที่เราตั้งค่าไว้ เช่น หากทำการกำหนดให้เล่นไฟล์ประเภท mp3 โดยอัตโนมัติด้วยโปรแกรม Windows Media Palyer ดังนั้นเมื่อเราใส่แผ่น CD ที่เก็บไฟล์ mp3 อยู่ระบบก็จะทำการเปิดไฟล์ดังกล่าวด้วย Windows Media Palyer เป็นต้น
ในกรณีที่ แผ่น CD หรือ Flash Drive มีไฟล์ Autorun.inf เก็บอยู่นอกสุดของโครงสร้าง เช่น F:\Autorun.inf และ Autoplay ของไดรฟ์นั้นเปิดอยู่ เมื่อเราใส่แผ่น CD หรือ ทำการต่อ flash drive ระบบก็จะทำงานตามคำสั่งในไฟล์ Autorun.inf โดยอัตโนมัติ ซึ่งข้อนี้เองที่เป็นช่องโหว่ที่นักพัฒนาไวรัสได้นำไปใช้ประโยชน์ในการแพร่กระจายไวรัสผ่านทาง flash drive โดยจะทำการสำเนาไฟล์ไวรัส(อาจเป็นไฟล์ประเภท .exe หรือ .vbs หรือไฟล์ประเภทอื่นๆ ที่สามารถเอ็กซีคิวท์ได้) และ Autorun.inf ลงใน flash drive และถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ทำการเปิด Autoplay บนไดรฟ์ USB ไว้ ดังนั้นเมื่อใครก็ตามทำการต่อ flash drive กับคอมพิวเตอร์เครื่องเครื่องดังกล่าว ระบบก็จะทำการเอ็กซีคิวท์ไฟล์ไวรัสทันที และแน่นอนคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น (อาจเป็นเครื่องของตัวท่านเอง) ก็จะติดไวรัสในทันที
สำหรับวิธีการป้องกัน ไม้ให้ทำการเอ็กซีคิวท์ไฟล์ไวรัสโดยอัตโนมัตินั้น สามารถทำได้โดยการปิดการใช้งาน Autoplay (เพื่อความปลอดภัยสูงสุดขอแนะนำให้ทำการปิด Autoplay บนทุกๆ ไดรฟ์) ซึ่งวิธีการมีดังนี้
หมายเหตุ
วิธีการ แก้ไขนี้จะใช้เครื่องมือ Group Policy Editor เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อความผิดผลาดน้อยกว่า การแก้ไขโดยใช้ Registry Editor
1. คลิก Start คลิก Run พิมพ์ GPEDIT.MSC เสร็จแล้วกด Enter
2. ในหน้าต่าง Group Policy Editor ให้คลิกที่เครื่องหมาย + หน้า Computer Configuration จากนั้นคลิกที่เครื่องหมาย + หน้า Administrative Templates แล้วคลิกที่ System ดังรูปที่ 1
รูปที่ 1 Computer Configuration
3. จากนั้นในด้านขวามือของหน้าต่าง Group Policy Editor ให้คลิกที่ Turn Off Autoplay ดังรูปที่ 2
รูปที่ 2 System
4. ในหน้า Turn Off Autoplay Properties ให้เลือกตั้งค่าเป็น Enble แล้วเลือก All Drives ดังรูปที่ 3 เสร็จแล้วคลิก OK
รูปที่ 3 Turn Off Autoplay
5. ปิดหน้าต่าง Group Policy Editor
ในตอนนี้จะเป็นการปิดการใช้งาน Autoplay บนทุกๆ ไดรฟ์ และทุกๆ ผู้ใช้ เนื่องจากเป็นการตั้งค่าที่ Computer Configuration ซึ่งจะมีผลกับทั้งระบบ แต่ถ้าหากต้องการปิดการใช้งาน Autoplay เฉพาะผู้ใช้คนใดคนหนึ่ง ก็ให้เปลี่ยนจาก Computer Configuration ในข้อที่ 2 เป็น User Configuration
© 2007 by dtplertkrai. (dtplertkrai@gmail.com) All Right Reserved
Wednesday, July 11, 2007
SQL injection
SQL injection By Present Group 11 Section 1 Project for 423402 Computer Security
B4600589 นายเกริกชัย วิชัยดิษฐ B4601319 นายจิระพัน โสขุมา B4605041 นายประวิทย์ ทองเน่า SQL Injectionคือ การที่ในเวปมีการรับข้อมูลจากผู้ใช้ แล้วนำไปใช้ในการสั่งให้ฐานข้อมูลทำงาน แล้ว ผู้ใช้พยายามที่จะหลอกโปรแกรมให้ทำงานนอกเหนือจากที่เราต้องการ หรือ หลอกให้โปรแกรมทำงานโดยผ่านการตรวจสอบเงื่อนไขบางอย่างInjection Flaws วิธีการทำ SQL injection ก็คือ แฮกเกอร์จะใส่ชื่อ username อะไรก็ได้แต่ password สำหรับการทำ SQL injection จะใส่เป็น Logic Statement ยกตัวอย่างเช่น ' or '1' = '1 หรือ " or "1"= "1 หรือ a' or 1=1-- Query = "SELECT * FROM product WHERE Password='$input'"; สมมุติว่า มีโค้ดต่อไปนี้ใน application และ parameter "userName" ซึ่งประกอบด้วย statement := "SELECT * FROM users WHERE name = '" + userName + "';" ถ้าป้อน "a'; DROP TABLE users; SELECT * FROM data WHERE name LIKE '%" SELECT * FROM users WHERE name = 'a'; DROP TABLE users; SELECT * FROM data WHERE name LIKE '%'; ฐานข้อมูลจะเอ็กซิคิวท์ statement ตามลำดับ คือ select data, drop user table วิธีการป้องกัน แทนที่จะใช้ Connection con = (acquire Connection) ให้ใช้โค้ดต่อไปนี้แทน Connection con = (acquire Connection)
References http://monitor.truehits.net/scan/faq/sqlinjection.php http://www.acisonline.net/article_prinya_hackweb2.htm http://infosec.sran.org/modules.php?op=modload&name=Sections&file=index&req=viewarticle&artid=114&page=1 |
Thursday, May 24, 2007
search crack
www.allcracks.net
www.andr.net
www.crack.am
www.crack.ms
www.crackz.ws
www.crackarchive.net
www.crackdb.com
www.crackzplanet.com
www.crackway.com
www.crackportal.com
www.keygen.us
www.keygen.ru
www.mscracks.com
www.thecracks.us
เว็บหาSerial
www.andr.net
www.crackzplanet.com
www.crackportal.com
www.freeserials.com
www.freeserial.spb.ru
www.mscracks.net
www.serialkey.net
www.serialarchive.com
www.keygen.name
www.serialsite.com
www.serials.ws
www.thekeys.ws
www.seriall.com
www.serialcodes.net
เพิ่มเติม
http://allseek.info
http://astalavista.box.sk
http://www.astalavista.cc
http://www.astalavista.com
http://www.cheat-zone.net
http://www.cleanserials.com
http://www.crackdb.com
http://www.crackfind.com
http://www.crackserver.com
http://www.crackspider.net
http://www.gamecopyworld.com
http://www.serialspot.com
http://www.thebugs.ws
http://www.warez.com
Tip com
Winme + Office XP ใช้ตัวสลับภาษาไม่ได้ | 1. Click Start->Run ตรงช่อง Open พิมพ์ msconfig Tab Startup เอา Tick หน้า ctfmon.exe ออก 2.Restart Windows Click Start ->Search->for files or folders... 2.1 หา file ชื่อ ctfmon.exe แล้ว Delete มันทิ้ง 2.2 หา file ชื่อ input98.cpl แล้ว Delete มันทิ้ง 3. Start->Setting->control Panel->Keyboard->Tick 2 ช่องล่างสุด (ตรง Indi....) | |
การเรียงสีของสายแลน | เริ่มจาก จากซ้ายไปขวาน่ะครับ จะเป็นดังนี้ 1 ขาวส้ม 2 ส้ม 3 ขาวเขียว 4 น้ำเงิน 5 ขาวน้ำเงิน 6 เขียว 7 ขาวน้ำตาล 8 น้ำตาล ปล. ถ้าเป็นสายธรรมดา ทั้ง 2 หัวจะเรียงเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นสายไขว์ให้สลับ(เบอร์ 1 กับ 3) และ (เบอร์ 2 กับ 6) ที่ด้านใดด้านหนึ่งครับ | |
| ขั้นตอนแรก ให้คุณล็อกอินเข้าระบบด้วยบัญชีผู้ใช้เป็น Administrator (อย่าใช้แอคเคาต์) เสร็จแล้วให้คลิกปุ่ม Start เลือกคำสั่ง Run ในกล่องข้อความ Open พิมพ์ gpedit.msc คลิกปุ่ม OK สังเกตุคลิกเครื่องหมายบวกที่อยู่หน้าไอเท็ม Local Computer Policy เพื่อดูออปชันต่างๆ ที่อยู่ภายใน จากนั้นคลิกต่อที่หน้าไอเท็ม Administrative Templates จากนั้นคลิกหน้าไอเท็ม Network คลิกเลือกไฮไลท์หัวข้อ QoS Packet Scheduler ในกรอบหน้าต่างทางซ้าย สังเกตุที่หน้าต่างด้านขวาให้ดับเบิ้ลคลิกบนหัวข้อ limit reservable bandwidth แท็บ setting ให้คลิกเลือกหัวข้อ enabled จากนั้นตรงตำแหน่งที่แจ้งว่า Bandwidth limit % ให้แก้เป็น “0” แล้วบู๊ตเครื่องใหม่ | |
google หา serial number โปรแกรม | google หา serial number โปรแกรม ง่ายๆครับแค่ ใส่ "ชือโปรแกรม"ตามด้วย 94FBR เท่านั้นเอง อย่างตัวอย่างผมจะหา serial โปรแกรมPhotoshop 7ผมก็พิมพ์ตามข้างล่าง "Photoshop 7" 94FBR | |
การ Back Up Registry | 1. ไป Start แล้วคลิก Run พิม Regedit 2. คลิกขวาที่ MyComputer แล้วเลือก Export 3. เลือกที่ที่จะเก็บ Backup registry เอาไว้ แล้วกด Save 4. เวลาจะเปลี่ยนคืนให้ เข้ามาที่เดิม แต่ไปที่ File แล้วเลือก Import 5. จากนั้นเลือกไฟล์รีจิสทรีที่เราสำรองไว้ แล้วกด Open หรือ อีกวิธีการหนึ่งคือ ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ reg นั้นโดยตรงแล้วกด OK เลยก็ได้ | |
การทำภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอ | วิธีการกำหนดภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอภาพ โดยการนำไฟล์ Gif Animate มาวางไว้ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้นะจ๊ะ 1) Click ขวาบนหน้าจอแล้วไปที่ Properties 2) Click แท็บ Desktop 3) Click ปุ่ม Customize Desktop 4) Click แท็บ Web นะ 5) Click ปุ่ม New 6) Click ปุ่ม Browse ค้นหาไฟล์ภาพเคลื่อนไหวที่เราต้องการ Click ปุ่ม Ok เป็นอันเสร็จ(ถ้ายังไม่เสร็จก็ OK ไปเรื่อยๆนั่นแหละ) | |
เปลี่ยนชื่อไอคอนบนเดสก์ทอป (เปลี่ยแบบมีเชิง) | เข้าไปแก้ที่ HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Explorer\CLSID โดยดูค่าดังนี้ครับ My Network Places: {208D2C60-3AEA-1069-A2D7-08002B30309D} My Computer: {20D04FE0-3AEA-1069-A2D8-08002B30309D} My Documents: {450D8FBA-AD25-11D0-98A8-0800361B1103} Recycle Bin:{645FF040-5081-101B-9F08-00AA002F954E} Default IE Icon: {871C5380-42A0-1069-A2EA-08002B30309D} เสร็จแล้วคลิ้กขวา refresh ที่หน้าเดสก์ทอปเลยครับ อิอิ | |
รวม Key ลัดของ วินโดวส์ ME ( Maximum Error ) XP ก็ใช้ได้ | Ctrl+Esc = เปิดเมนู Start ปุ่มวินโดวส์+M= Minimize ทุกๆวินโดวส์ทั้งหมด ปุ่มวินโดวส์+Shift+M = Restore วินโดวส์ทั้งหมดที่ถูก Minize ลงไป ปุ่มวินโดวส์+D = สลับการแสดงเดสทอป ปุ่มวินโดวส์+F1 = เปิดวินโดวส์ Help ปุ่มวินโดวส์ + Pause/Break = เปิด SystemProperties ปุ่มวินโดวส์+E = เปิดวินโดวส์ เอกซ์ เพอ เร่อ Explorer ปุ่มวินโดวส์+R = เปิดวินโดวส์ Run ปุ่มวินโดวส์+F = เปิดการ Search ปุ่มวินโดวส์+Ctrl+F = เปิดการ Search เหมือนกัน ( WinMe & Win 98 ) ปุ่มวินโดวส์+Tab = ย้ายจุดเลือกของแต่ละ Task ( ลองกดดูครับ อธิบายไม่ค่อยถูก ) Alt+Tab = สลับโปรแกรมที่กำลังทำงานอยู่ Alt+Enter = ใช้สำหรับ Dos เพื่อเข้าสู่โหมด FullScreen Alt+F4 = ปิดวินโดวส์ที่กำลัง Active อยู่ Alt+Spacebar = เรียกเมนูระบบของวินโดวส์ PrintScreen = จับภาพหน้าจอทั้งหมดเอาไปไว้ในคลิปบอร์ด Alt+PrintScreen = จับภาพหน้าจอ เฉพาะหน้าที่เป็น ActiveWindows เอาไว้ในคลิปบอร์ด Shift+F10 = เรียก Context Menu ขึ้นมา ( ลองกดดิ ) Ctrl+Alt+Del = เรียก Task Manager ขึ้นมา ถ้าเป้น Win98หรือ WinME กดอีกครั้ง จะ Restart เครื่องไปเลย[/me] | |
ห้ามใช้โปรแกรม | 1.ไปที่ Start คลิกที่ Run พิม regedit แล้วคลิกปุ่ม ok ดิ๊ 2. ไปที่ HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Policies\Explorer 3. คลิกขวาที่ Explorer แล้วตามสูตรเลยคับ New ตามด้วย DWORD Value 4. พิม DisallowRun แล้วดับเบิ้ลคลิก 5. พิมเลข 1 แล้วกด OK 6. จากนั้นคลิกขวาที่ Explorer แล้วเลือก New เลือก Key 7. พิมชื่อคีย์ DisallowRun แล้วคลิกขวาที่นี่ละ แล้วเลือก New เลือก String Value 8. พิมตัวเลขที่ ต่อจากเลขมากที่สุด ............................ เข้าใจป่าว ........ อันนี้ต้องอธิบายกันนิดนึง คือ สมมุตติว่า เพิ่งทำการห้ามใช้โปรแกรมด้วย Tips นี้เป็นครั้งแรก มันจะไม่มีเลขอะไรเลย เราก็ใส่ 1 เข้าไป เราก็ห้ามใช้ได้ 1 โปรแกรม จากนั้น ถ้าเราจะห้ามใช้โปรแกรมเพิ่มอีก โดยที่ โปรแกรมเก่า เราก้ยังห้ามอยู่ ถ้าเราไปปรับที่เดิม มันก้จะมีเลข 1 ที่ห้ามใช้ โปรแกรมแรก อยู่ใช่ปะ ถ้าเราจะห้ามใช้โปรแกรมต่อไป เราก็พิม 2 เพราะ เลข 1 นั่นคือ ตัวเลขที่มากที่สุดนั่นเอง เข้าใจป่าว 9.ดับเบิ้ลคลิกที่ตัวเลข ที่เราพิมเมื่อกี้ลงไป ( ตัวเลขในข้อ 8 ) 10. พิม พาธของโปรแกรมที่เราจะห้ามให้ใช้ เช่น "C:\Program Files\Adobe\Photoshop7.exe" < ตรงคำ ว่า Program Files มันมีช่องว่าง เราเลยต้องใส่ฟันหนู "" C:\WINDOWS\notepad.exe < พาธนี้ไม่มีช่องว่างเลย ก็เลยไม่ต้องใส่ฟันหนูนะ 11. กด OK เสร็จ | |
ห้ามคลิกขวาที่ Desktop | 1.ไปที่ Start คลิกที่ Run พิม regedit แล้วคลิกปุ่ม ok ว่ะ 2. ไปที่ HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Policies\Explorer 3. คลิกขวาที่ Explorer แล้วเลือก New ตามด้วย DWORD Value 4. บรรจงพิมลงไปอีกแล้วว่า NoViewContextMenu พิมเสร็จแล้วดับเบิ้ลคลิกซะ 5. พิมเลข 1 ลงไป แล้วกด OK ตามสูตรอมตะ100ตัวของพวกเรา 6. ลองไปคลิกดิ คลิกได้ป่าว ถ้าจะให้คลิกได้ก็ทำเหมือนเดิมงัย แล้วเปลี่ยนจาก 1 เป็น 0 | |
การรีดแรงม้าจาก XP โดนไม่ต้องปรับแต่งใดๆ | 1. ไม่ควรให้ CPU ร้อนหรืออยู่ในที่ที่ร้อนๆ เพราะจะทำให้อัตราการหมุนของพัดลมเร็วขึ้น กินไฟมากขึ้นจะส่งผลให้เ CPU ดูพลังงานจน Error ได้ 2. เร่งอัตราสูงสุดในการทำงานของ Hardware ทุกชนิด และไม่ควรเลือกคำสั่งบังคับ หรือบังคับให้เกิดความเข้ากันได้ หรือ Force นั่นเอง Quote: 3. มีอีกอย่าง ถ้าทำด้วยจะดีมากเลย *** เป็นการตั้งความจำเครื่องใหม่น่ะครับ คลิ๊กขวาที่ My Com > Properties > Performance เลือกที่ File System... > Hard disk เปลี่ยน Typical role of this computer เป็น > > Network server > Apply > O.K. คลิ๊กขวาที่ My Com > Properties > Performance เลือกที่ Virtual Memory... > คลิ๊กที่ Let me specify my own virtual memmory setting. แล้วเปลี่ยนที่ Minimum และ Maximum ตามสูตรนี้ เอาค่า Ram ในเครื่องเราคูณ 2.5 ได้ค่าแล้วก็ใส่ตาสที่บอกน่ะ EX. RAM 64 MB คูณ 2.5 = 160 128 MB คูณ 2.5 = 320 อันนี้ไม่จำเป็นต้องเป็น Manual นะครับ ให้เป็น Typical role of this computer เลยก็ได้ครับ 4. สิ่งที่กินสเปซเครื่องมากมีดังนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานควบคู่กัน - การเล่น Internet - การทำกราฟฟิค - การปริ้นงานโดยมี Software กำกับ - การทำแบแบรนหรือการทำงานเกี่ยวกับการรวม hardware เข้าด้วยกัน ควรหลีกเลี่ยงการใช้โปรแกรมร่วม อย่างเช่น Disk Defragment ประมารนี้อ่ะ ฯลฯ 5. ควร Defragment อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และทำการล้างเครื่องให้สะอาดจาก Registry ขยะเสมอ 6. ไม่ควรปรับแต่งค่า Registry ถ้าไม่รู้จักและไม่คุ้นเคย 7. การใช้ Hardware ต่อพ่วงอาจทำให้เกิดอาการแฮงค์ได้ อย่าพ่วงเยอะ อย่างเช่นการใช้โมเดม 2 ตัว คู่กับ Printer 2 ตัว(ทำไมผมเห็น LTP การ์ดฟะ หรือว่าตาฝาดต่อ printer ได้ 2 ตัว) | |
เอา User name ตรง Startmenu ออก | 1.Start -> Run -> พิมพ์ว่า GPEDIT.MSC เพื่อเรียกโปรแกรม Group Policy ขึ้นมานะครับจากนั้นก็ไปที่ User Configuration -> Administrative Templates -> Start Menu and Taskbar นะครับแล้วก็ดูขั้นตอนต่อไปเลยครับ 2.ให้หาคลิ๊กคำว่า Remove Username from Start Menu Double Click ขึ้นมาแล้ว Check ที่ Enabled แล้วกดปุ่ม OK เท่านั้นก็เรียบร้อยแล้วครับ | |
หยุดการเล่นโปรแกรมอัตโนมัติ ในขณะใส่แผ่น CD (ยกเว้น CD เพลง) | 1. คลิ๊ก Start เลือก Run 2. พิมพ์ "gpedit.msc" จะมีหน้าต่าง Group Policy ขึ้นมา 3. ดับเบิ้ลคลิ๊ก Computer Configuration และดับเบิ้ลคลิ๊ก Administrative Templates 4.จากนั้นดับเบิ้ลคลิ๊ก System ตรงด้านขวามือให้ดับเบิ้ลคลิ๊กที่ Turn off autoplay 5.จะมีหน้าต่าง Turn off Autoplay Properties ขึ้นมา 6. ให้คลิ๊กเลือกที่ Enabled 7. ตรงช่อง Turn off Autoplay on: ให้เลือก CD-ROM drives 8.กด Apply 9. กด OK ( จบ ) | |
ลบโปรแกรม MSN Messenger ออกจาก WindowsXP | ถ้าคุณต้องการลบ MSN Messenger ออกจาก WindowsXp ทำได้โดยคลิ๊ก Start -> Run แล้วพิมพ์ดังนี้ RunDll32 advpack.dll,LaunchINFSection %windir%\INF\msmsgs.inf,BLC.Remove จากนั้นคลิ๊ก OK | |
แก้เครื่อง shutdown นานมาก | รัน regedit แล้วแก้ registry HKEY_LOCAL_MACHINE\System\CurrentControlSet\Control ตรงด้านขวามือเลือกที่ WaitToKillServiceTimeout เดิม 20000 แก้เหลือ 1 HKEY_CURRENT_USER\Control Panel\Desktop ตรงขวามือให้แก้ตามนี้ "AutoEndTasks"="1" "HungAppTimeout"="1" "MenuShowDelay"="100" (เพิ่มความเร็ว Start Menu) "WaitToKillAppTimeout"="1" ปิด Regedit จากนั้นรีสตาร์ท จะเห็นผลโดยทันที | |
บูทวินโดวส์ XP แบบติดเทอร์โบ | ไปที่ Start > Run แล้วพิมพ์ regedit แล้วกด ok HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Control\SessionManager\MemoryManagement\PrefetchParameters ตรงด้านขวามือแก้ไขคีย์ EnablePrefetcher จาก 3 เป็น 5 แล้วกด OK | |
ไม่ให้ WIN XP ถามหา password ตอน boot | ให้พิมพ์ rundll32 netplwiz.dll,UsersRunDll | |
วิธีการเปลี่ยน Partition จาก FAT32 to NTFS โดยใช้ Win_XP | ไปที่ command prompt แล้วพิมพ์ CONVERT volume /FS:NTFS **ตรง volume หมายถึงไดร์ฟนะครับ เช่น ถ้าจะเปลี่ยนที่ C: ก็ CONVERT C: /FS:NTFS ถ้า D: ก็ CONVERT D: /FS:NTFS | |
การทําเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการท่องเน็ตให้เร็วขึ้นใน Windows XP | ริ่มกันที่การปรับความว่องไวปราดเปรียวของพอร์ทหรือ serial port 1 และ 2 ก่อนเพราะโมเด็มก็จะต่อ โดยใช้ serial port 1 หรือ 2 ปกติแล้ววินโดว์จะปรับไว้ที่แค่ 9,600 Bits per second เท่านั้น ถือ ว่าเป็นคอขวดของการไหลข้อมูลของโมเด็ม ให้เปิด Device Manager ขยายสาขา ports (COM & LPT) เลือกคลิกขวาที่ Communications Port (COM1) แล้วเลือก Properties เลือกแท็ป Port Settings ปรับ Bits per second เป็น 115200 ที่ Flow control เลือกเป็น Hardware เสร็จแล้วคลิกที่ Advance จะได้วินโดว์ Advance Settings for COM1 ดังรูป ปรับค่า Recieve Buffer และ Transmit Buffer เป็นค่าสูงสุดแล้ว OK ถือว่าเป็นการเสร็จสิ้นการปรับแต่ง port com 1 ให้ทำเช่นเดียวกันที่ port com 2 ให้ล็อกอินเข้า Windows XP โดยใช้ Administrator โดยทำดังนี้ คลิก Start > logoff > logoff ที่หน้าจอ logon กด Ctrl+Alt+Del ที่ user พิมพ์ Administrator ตัวเล็กใหญ่มีความสำคัญครับ ใส่ password ให้ถูกต้องแล้วกด OK เมื่อเข้าวินโดว์ในฐานะ Admin แล้ว คลิกที่ปุ่ม Start > run > type gpedit.msc จะพบกับหน้าต่างของการปรับแต่ง Group Policy ให้ขยายกิ่งก้านสาขาตามภาพข้างล่างนี้ด้านซ้ายมื อจนมองเห็นหัวข้อ QoS Packet Scheduler ที่วงกลมไว้ จากนั้นดูในกรอบหน้าต่างขวามือจะพ บว่ามีหัวข้อ Limit reservable bandwidth ที่วงกลมไว้ ใช้เมาท์ชี้และดับเบิ้ลคลิกลงไปเลยครับ คุณก็จะพบกับกรอบหน้าต่างใหม่ที่ชื่อ Limit reservable bandwidth Properties ดูที่แถบ Setting ให้ คลิกเลือกที่ช่อง Enable ดูที่หัวข้อ Bandwidth limit (%) : ปรับค่าให้เป็น 0 คลิกที่ Apply > OK แล้วปิดกรอบในหัวข้อนี้ไปได้เลย ไปที่ Network connections ของคุณเองสำหรับการเชื่อมต่อ (คลิกเลือกได้จาก Start > My Computer > My Network connection > View Network connections) เลือกที่ไอค่อนการต่อกับผู้ให้บริการของคุณ (ตัวอย่างเป็น JInet) คลิกเมาท์ขวาเลือก Properties ที่แถบ General หรือ Networking จะต้องมี QoS Packet Scheduler ถูกเลือกให้ทำงาน Enable ไว้ คลิกที่ OK ไม่มีทางเลือกอย่างอื่นต้องรีสตาร์ทเครื่องเพื่อให้การปรับแต่งมีผลตามต้องการ ทดลองเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตดูครับ ว่าเร็วผิดหูผิดตาบ้างหรือเปล่า โดยปกติแล้วผมยอมรับว่าเจ้า Windows XP คู่กับ IE6 มันท่องเน็ตเร็วอยู่แล้ว ถ้าปรับแล้วมันกระฉูดกว่าเดิม | |
พิมพ์รายชื่อเพลง MP3 | Ctrl+Alt+G ที่ winamp แล้วมันจะขึ้นชื่อเพลงทั้งหมดที่เปิดในขณะนั้นครับ dir *.* /s > c:\mp13.txt แล้วค่อยไปเปิดบน Notepad | |
winamp 5 อ่านไทย | การปรับภาษาไทย 1. Options > Preference > Play list เอาเครื่องหมายถูกออกจาก use skin or language pack แล้วเลือก font MS Sans Serif 2. Options > Preference > Modern skin เอาเครื่องหมายถูกออกจาก Allow use of bitmap fonts…… ที่ Replace with เลือก Tahoma และ เอาเครื่องหมายถูกออกจาก Use free type international TTF rendering |
Monday, February 5, 2007
Disabling the Shutdown Event Tracker
Because Windows Server 2003 is a 'Server', the event tracker plays a crucial role so that it can keep logs on why the server was shutdown/rebooted. Since we want it to be a Workstation, we will easily attempt to disable this feature. Again, its so damn simple :-)
Group Policy Editor We will need to go into Group Policy Object Editor, go to Start -> Run -> and type gpedit.msc followed by enter. You should see the Group Policy Editor as shown on the left. Browse to Computer Configuration -> Administrative Templates -> System -> now look in the right window pane and double click on Display Shutdown Event Tracker.
This window will now appear, simply select Disabled and then proceed to click on OK. Now close the Group Policy Object Editor window. If all goes well, you should get this when you attempt to shutdown:
Display Shutdown Event Tracker
Shut Down Windows
Now that you have IE ready for Internet browsing, and disabled the Shutdown Event Tracker, now's a good time to start downloading and installing all those drivers! After you have done so, move on to the next section - where we will accelerate our Graphics card and enable DirectX!
Thursday, February 1, 2007
Slipstreaming Windows XP
Slipstreaming a Service Pack, is the process to integrate the Service Pack into the installation so that with every new installation the Operating System and Service Pack are installed at the same time.
Slipstreaming is usually done on network shares on corporate systems. But with the advent of CD burners, it does actually make some sense for the home user or small business user to do the same.
Microsoft added the ability to Slipstream a Service Pack to Windows 2000 and Windows XP. It not only has the advantage that when you (re)install your OS, you don't have to apply the Service Pack later, also if you update any Windows component later, you'll be sure that you get the correct installation files if Windows needs any.
Slipstream Windows XP Service Pack 2
Download the (full) "Network Install" of the Service Pack (English version [266 MB]), and save it to a directory (folder) on your hard drive (in my case D:\XP-SP2). Other languages can be downloaded from the Microsoft Download Web site.
Note: do not use spaces in the folder name!
Next copy your Windows XP CD to your hard drive. Just create a folder (I used \XP-CD), and copy all the contents of your Windows XP CD in that folder.
Next, open a Command Prompt (Start > Run > cmd), and go to the folder where you downloaded SP2 (cd \foldername). Type the command: servicepack filename /integrate:drive/path. In my example the command is WindowsXP-KB835935-SP2-ENU /integrate:D:\XP-CD.
Extract SP2 files
If you get the error:
This service pack can't be integrated error
This is caused by the fact that your Windows XP CD contains updates that will be automatically installed when you run setup. This type of CD's will usually be from larger OEM suppliers (like Dell, HP, or others).
You cannot use this type of CD to create a slipstreamed SP2 install.
First, the files will be extracted, and next they will be integrated in your Windows XP files:
Updating Windows Share
When ready, you should get a confirmation. Windows XP Service Pack 2 has now been Slipstreamed into your original Windows XP files.
Slipstream Completed
Creating a Bootable CD
For this part I used IsoBuster and Nero Burning ROM 6 (make sure you have the latest version, but at least 5.5.9.0).
After you install IsoBuster, you can choose to use only the product's free functionality for what we want to do, IsoBuster will look like the image below (you need to have your original Windows XP CD in the CD-ROM drive).
Start to extract the boot loader from the original Windows XP CD. Using IsoBuster, select the "folder" Bootable CD, and right-click Microsoft Corporation.img. From the menu choose Extract Microsoft Corporation.img, and extract it to the folder on your hard drive where you have your Windows XP files (D:\XP-CD in my case).
Extract Boot Image
Next, start Nero Burning ROM, and choose CD-ROM (Boot) in the New Compilation window. On the Boot tab, select Image file under Source of boot image data, and browse to the location of the Microsoft Corporation.img file. Also enable Expert Settings, choosing No Emulation, and changing the Number of loaded sectors to 4 (otherwise it won't boot!)
Nero Boot Settings
The ISO tab should be configured correctly as shown below:
Nero ISO Settings
If you have an older version of Nero you won't have the option Do Not Add ";1" ISO file version extention under Relax ISO Restrictions. You won't be able to boot your new CD, so update Nero!
You can configure the Label tab to your liking, I would however recommend that you keep the Volume Label the same as on your original Windows XP CD. Here are some (English) Labels:
* Windows XP Professional: WXPCCP_EN
* Windows XP Home: WXHCCP_EN
* Windows XP Professional OEM: WXPOEM_EN
* Windows XP Home OEM: WXHOEM_EN
Nero Label Settings
Next press New, and from the File Browser window, select the files and folders from your slipstreamed location (in my case D:\XP-CD). Now drag & drop the selected files in the ISO1 window.
Copy Files
Next, burn your new CD.
Burn
You now have a Bootable, Slipstreamed Windows XP Service Pack 2 CD!
Friday, January 19, 2007
Windows XP JACKED
So what I'm hoping to do with this page is provide (1) a 1-line description of each release, (2) a link to the SRN post about each release, (3) a link to the PDF NFO about each release, and (4) the torrent download link for each release. And maybe, just maybe, if Mr. eXPerience likes this series, he might be so kind as to sticky this post.
*Thanks XP.
The JACKED release series, by reatta32
(1) JACKED
DESCRIPTION: 445 MB DL / 19 MB RAM / 28 unattended program installations
FORUM: http://www.retestrak.nl/Board/index.php?showtopic=17905
NFO: http://www.box.net/public/1h5g8kt4y2
DOWNLOAD: http://thepiratebay.org/tor/3532499
(2) JACKED_lite
DESCRIPTION: 280 MB DL / 18.5 MB RAM / 16 unattended program installations
FORUM: http://www.retestrak.nl/Board/index.php?showtopic=17920
NFO: http://www.box.net/public/k2m58um6kq
DOWNLOAD: http://thepiratebay.org/tor/3532749
(3) JACKED_reatta32 personal edition
DESCRIPTION: 608 MB DL / 18.5 MB RAM / 9 unattended and 2 attended program installations
FORUM: http://www.retestrak.nl/Board/index.php?showtopic=17929
NFO: http://www.box.net/public/5cdz5bj3gd
DOWNLOAD: http://thepiratebay.org/tor/3532913
(4) JACKED_core
DESCRIPTION: 106 MB DL / 17.9 MB RAM / No third-party programs
FORUM: http://www.retestrak.nl/Board/index.php?showtopic=17947
NFO: http://www.box.net/public/v0iep3x414
DOWNLOAD: http://thepiratebay.org/tor/3532920
(5) JACKED_game
DESCRIPTION: 88 MB DL / 17.6 MB RAM / No third-party programs
FORUM: http://www.retestrak.nl/Board/index.php?showtopic=17960
NFO: http://www.box.net/public/r3ndjqz03c
DOWNLOAD: http://thepiratebay.org/details.php?id=3533591
Windows XP JACKED Robusto Edition
This release is the culmination of 6-straight weeks of development and Q&A. I am very happy with the end result, a truly novel approach to unnattended, custom-modified Windows XP and program deployment.
- 153 MB ISO / 344 MB WINDOWS folder
- 30-55 MB Total OS RAM Usage
- Student Edition XP--no Activation, no Serial needed
- Passes WGA
- Build a Custom Fully-Unattended Win XP Install CD/DVD
- Embed the Included 85 Program Add-On Packages & Embed Your Own Drivers
- Remove Languages, Keyboard Layouts & OS Components that you don’t need
- Custom "Look & Feel"--theme, msstyle, cursors, boot screen, wallpaper, shell icons
85 Unattended, Auto-Installing Program Installation Packages @ 2.75 GB
http://thepiratebay.org/tor/3557370
Windows 2003 eXPerience Edition
Posted on Thursday 4 January 2007
Based on Windows Server 2003 Enterprise Edition, this specially
made version of Windows has been fully tweaked and transformed
for home use/playing games.
This operating system will run almost all of the software that
runs on Windows XP.
——————————————————————————–
“Why use Windows Server 2003?” you might ask - because it runs
everything faster than Windows XP. Server 2003 boots up faster
than XP, it even runs GAMES faster than Windows XP, for example,
loading levels in Half Life 2 takes a third of the time it takes
in Windows XP. Also, you get way better frame rates in server
2003 too.
Server 2003 has no Welcome screen and it is simply more responsive
than Windows XP.
Windows Server 2003 Enterprise Edition with SP1 allows up to eight
processors and 1 TB (terabyte) of RAM, yes, up to one thousand gigabytes
of RAM! So this OS is somewhat future proof, since most home systems
only use one or maybe two processors at the most and usually only use
up to 4Gb or 8Gb of RAM in even the most extreme gaming setups.
——————————————————————————–
Perhaps it is best not to mention the real world cost of this OS,
but remember, this eXPerience Edition is not meant to be used as
a server OS, although the truth is, it could be used as a server
OS if you wanted, because it has not actually been “converted” to
a workstation, only carefully tweaked for “home use”. Bear in mind
that some features have been stripped out of this special edition,
however, this should not affect the use of this OS as a server, but
this is not its intended purpose - the purpose of this OS is to provide
a very fast and very stable home OS that runs software faster than XP
could ever hope to be, especially now XP has over 65 post SP2 hotfixes
you have to cram into it, it seems to get slower with every hotfix that
you install. Microsoft cannot afford to be like that with Server 2003
because it costs too much and professional Administrators would catch on.
Maybe the slowness of XP is down to Vista coming soon, who knows, but XP
is not what it once was, the fastest XP is probably with SP1. The theory
goes that hotfixes protect you from viruses and spyware, but I have yet
to experience any real evidence of that, however there is plenty of evidence
that hotfixes bloat XP and slow it down! Again, just in time for Vista.
——————————————————————————–
DO NOT use conversion to a workstation tools on this OS like “TweakNT”
or “Reset5″ because those tools do not work on this corporate version
of Server 2003. If you use these tools, the OS will not be bootable
anymore.
——————————————————————————–
The WINDOWS folder for this installation only uses 630Mb of hard disk
space, the normal full install of Server 2003 Enterprise Edition takes
up 1500Mb of space.
The ISO image of this eXPerience Edition is about 300Mb, this is half
the size of the normal ISO image and this special edition includes
additional drivers totalling about 45Mb of that 300Mb, so the actual
size for Windows on its own on the ISO image is roughly 250Mb. The
included drivers are all integrated so that your devices (see details
below for included drivers) will be working on installation. Driver
packs used are part of Bashrat the Sneaky’s driver packs, which are
finally a solution to unattended SATA problems that Microsoft seemingly
refuse to address.
RAM memory usage on first install = 55Mb
Only install this operating system onto a freshly formatted
partition or hard disk.
It is not possible to upgrade, because the option (44Mb) has been
removed. If you did “upgrade” from XP, you cannot go back to XP
again anyway.
To install this unattended version, simply boot from the CD and format
the drive or partition you want to install to, then just sit back and
wait 15 minutes and the installation takes care of itself. No ‘Product
Key’ is needed.
——————————————————————————–
The following hotfixes are integrated:
Service Pack 1 (build 1830)
All 32 Critical and Recommended Hotfixes up to 21.06.2006
——————————————————————————–
Includes the following programs:
MSN Messenger v7.5.0324
Windows Media Player v10.00.00.3704
——————————————————————————–
The following drivers are integrated:
Chipset Drivers
CPU Drivers
Ethernet LAN Drivers (NIC card)
SATA Drivers (no floppy disk needed)
——————————————————————————–
Added to the Start Menu you will find
the automatic Product Key change tool.
This is because eventually and inevitibly, Microsoft will make
people feel miserable and block the key that is used for this
unattended installation. Now, before you even connect to the
internet you are able to easily change the ‘Product Key’ in one
click, just run the key changer, click “Yes” and sit back whilst
the ACCU2003 program performs its tricks. This special edition
of Server 2003 does not need to be activated, because it is a
corporate (VLK) version.
——————————————————————————–
The following items have been removed:
Printer Drivers - 33.74 Mb
All Languages (except USA and UK english) - 81.60 Mb
Wallpapers and game controller images - 3.36 Mb
Windows Sounds - 2.11 Mb
Microsoft .NET Framework - 12.22 Mb
Administration Tools Pack - 13.2 Mb
Help - 23.0 Mb
Manual Install and Upgrade - 44.0 Mb
Search Assistant - 5.55 Mb
Beep Driver (stops annoying system beeping) - 2 Kb
Error Reporting Service - 140 Kb
Indexing Service - 6.36 Mb
Messenger (could be used by spammers) - 20 Kb
Remote Registry (would enable remote registry editing) - 30 Kb
Telnet Server Service - 90 Kb
UDDI Service (Server 2003 only, not needed) - 31.37 Mb
Windows Media Services (Server 2003 only, not needed) - 15.10 Mb
The following directories have been removed…
DOCS - 545 Kb
PRINTERS - 31.00 Mb
SUPPORT - 11.05 Mb
VALUEADD - 6.10 Mb
——————————————————————————–
It is recommended that for antivirus you use Symantec Antivirus
Corporate Client and for a firewall, use either Sygate Personal
Firewall Pro or BlackIce PC Protection. Common antivirus software
like that included with “Norton Systemworks” will not install on
Server 2003, this is maybe because Norton will not be held responsible
for protecting a server - remember, this operating system is supposed
to be used on a machine like a rackmounted server with hundreds of other
machines being run off of it. It is this very same reason why Server 2003
is much faster than Windows XP and is rock solid compared to ANY other
Windows. The only other software that might not install, is XP specific
software like Microsoft Plus! that is for use exclusively on XP, in other
words Microsoft Plus! for XP would not install on Windows 98 or Windows
2000 either. It seems that the only problem with Server 2003 and software
not installing is your choice of antivirus and firewall - stick with the
recommendtions above and you can’t go wrong.
——————————————————————————–
Here are the changes made from what this operating
system would be, to the altered eXPerience Edition…
Monitor resolution is set to 1024 x 768 (even in Vmware)
Turned “Hardware Acceleration” up to full. (HWACC.EXE by Sjaakie)
Removed “Manage Your Server” shortcut from pinned list on start menu.
Does not show “Windows Server Post Setup Security Updates” on first boot.
Does not show “Manage Your Server” wizard on Startup.
DirectDraw and Direct3D is enabled in DirectX Diagnostic Tool.
Programs are set so they have priority over background applications.
All “Ctrl+Alt+Del” prompts (login, resume & standby) are disabled.
Server 2003 “Shutdown Event Tracker” is disabled.
Themes Service is enabled.
Windows Audio service is enabled.
Other Tweaks:
Disabled Print Spooler service.
Notepad Tweak - Turned on “WordWrap” in Notepad.
Removed “Shortcut to” Prefix on Shortcuts.
Disabled “Transition Effect” when you right click.
Disabled Window Animation.
Shows complete filename with extension.
Displays DOS filenames in proper text-case
Shows Hidden Files and Folders.
Uses Windows Classic Folders.
Disabled Balloon Tips.
Any open folders restore again when Windows restarts.
Disabled automatic restart in the event of a BSOD.
Disabled error reporting (but still notify on critical errors)
Disabled Windows Time service.
Prevented re-use of Internet Explorer windows.
Removed “Language Bar”.
Made Internet Explorer maximum downloads 10 (default was 2)
Removed “Shared Documents” from My Computer.
Renaming of Recycle Bin is allowed.
Hung services are killed after 5 secs (default was 20 secs).
Got rid of “Places Bar” in Common Dialog Boxes.
Start Menu is speeded up to almost zero delay.
Added Notepad as a Right Click Item.
Added “Accessibility” tab to Internet Explorer.
Added “Always expand alt text for images.
Added Move system caret with focus/selection changes.
Added “Browsing” to the “Advanced” tab in “Internet Options”.
Can open NFO files with notepad from the outset.
Stopped MSN sound when contacts sign in.
Disabled MSN startup with Windows.
——————————————————————————–
Service Pack 1 and Hotfixes (up to 21.06.2006) integrated:
WindowsServer2003-KB889101-SP1-x86-ENU.exe (SP1 Build 1830)
Windows-KB890830-V1.17.exe (Malicious Software Removal Tool)
WindowsServer2003-KB890046-x86-enu.exe
WindowsServer2003-KB893756-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB896358-x86-enu.exe
WindowsServer2003-KB896422-x86-enu.exe
WindowsServer2003-KB896424-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB896428-x86-enu.exe
WindowsServer2003-KB898715-x86-enu.exe
WindowsServer2003-KB899587-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB899588-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB899589-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB899591-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB900725-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB901017-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB901214-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB902400-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB904706-v2-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB905414-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB908519-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB908531-v2-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB910437-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB911280-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB911562-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB911567-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB911927-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB912919-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB914389-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB916281-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB917344-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB917734-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB917953-x86-ENU.exe
WindowsServer2003-KB918439-x86-ENU.exe
——————————————————————————–
To check the checksum for this ISO file, go here…
http://www.slavasoft.com/fsum/overview.htm
1 - Download FSUM (it is FREE) and unzip FSUM.EXE into the
same folder as the Windows_2003_eXPerience_Edition.iso file.
2 - Put the following code in a new Notepad text (txt) file:
fsum.exe -sha512 Windows_2003_eXPerience_Edition.iso >sum.txt
3 - Rename that .txt file as a .cmd file and, with FSUM.EXE
in the same folder as the Windows_2003_eXPerience_Edition.iso,
double click the .cmd file you made and it will create a new
text file called “sum.txt” - just open that sum.txt file and
make sure the code matches with the following code……….
ISO FILE SHA-512 CHECKSUM:
1502f2f24f5fa8f41b382860c87a76bb
7aab9962fb72792a7774b0272d83a97b
1daf539e49a1ab6c01db84aa513c5456
32f68cde81632b771423a0c6d2eb9f94
——————————————————————————–
ISO File Size in Bytes………………………. 297,945,088
Files on ISO……………………………….. 4,818
Folders on ISO……………………………… 33
——————————————————————————–
Enjoy This Fine Release By eXPerience
Build Date: 01.07.2006
Released: Mid-Summer 2006
——————————————————————————–
Download:
http://rapidshare.de/files/36490551/friday13octoberbackup.part1.rar
http://rapidshare.de/files/36540026/friday13octoberbackup.part2.rar
http://rapidshare.de/files/36548952/friday13octoberbackup.part3.rar
OR
http://rapidshare.com/files/228302/friday13octoberbackup.part2.rar
http://rapidshare.com/files/222380/friday13octoberbackup.part1.rar
http://rapidshare.com/files/216896/friday13octoberbackup.part3.rar
PASSWORD
www.isoscene.com
Win_2003_eXPerience_Edition__Fully_Tweaked_for_Hom e_Use.part1.exe
Win_2003_eXPerience_Edition__Fully_Tweaked_for_Hom e_Use.part2.rar
Win_2003_eXPerience_Edition__Fully_Tweaked_for_Hom e_Use.part3.rar
Friday, January 12, 2007
Microsoft Windows XP Professional Lite Corporate
This is a fully functional version of XP Corporate. (100% tested) Features and non-features include (but not limited to):
Sick of bloat? read on.
Full unattended install.(after initial blue screen boot up BS, sit back and relax)
No cd key required.(built in)
No activation.
NO INTERNET EXPLORER!(have a cd ready with your favorite browser on it if you want to surf) hint:Firefox
All drivers have been retained.
All networking components intact.
No balloons pop ups.
TCP/IP Patch installed(allowing 100 connections, as opposed to the default 10 in winXP SP2,which may help bittorrent speeds)
NO "send error messages to microsoft"
NO help BS.
No "microsoft" windows updates.(MS Updates appears on start menu, just delete it)if you want updates, go to http://www.petri.co.il/ or http://windowsupdate.62nds.com/ F*ck Bill.
All language packs and support have been removed except for English.
Administrative Tools was added to My Computer, for EZ access.
Numerous other tweaks were added.
I tested this version on a PC with only 256 MB RAM, and it absolutely FLEW!
Has all MS updates as of March 06.
On a side note, this is the perfect OS for the person who uses a second computer for gaming.(after install, xp was only using 100MB RAM!)
All in all, I reduced a 590MB bloatware piece of sh*t, to a sweet,(295MB) hassle free version of XP.
Microsoft_Windows_XP_Professional_Lite_Corporate.p art1.exe
Microsoft_Windows_XP_Professional_Lite_Corporate.p art2.rar
Microsoft_Windows_XP_Professional_Lite_Corporate.p art3.rar
Razem 278 MB
the people who are having problems with their keyboards may take a look at the The Microsoft Keyboard Layout Creator @ http://www.microsoft.com/globaldev/tools/msklc.mspx
Thursday, January 11, 2007
samgler 233-221
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|