generate training location --> obj.data -->list pic and area mark
obj,names --> Label
.GT --> file and Label area mark
prebuild weight ---> .weight นำมาคำนวนต่อ
Darknet, ONNX, PyTorch, TensorRT, TensorFlow และ Weights เป็นเทคโนโลยีหรือเครื่องมือที่ใช้ในงานด้านปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) แต่ละอย่างมีความแตกต่างกันดังนี้:
Darknet
- เป็นเฟรมเวิร์กสำหรับการฝึกและทดสอบโมเดลเครือข่ายประสาทเทียม (Neural Networks) โดยเฉพาะการทำงานเกี่ยวกับ YOLO (You Only Look Once) สำหรับการตรวจจับวัตถุ (Object Detection)
- เขียนด้วยภาษา C และ CUDA สำหรับการใช้งานกับ GPU ทำให้ Darknet มีประสิทธิภาพสูงในการประมวลผล
ONNX (Open Neural Network Exchange)
- เป็นรูปแบบโมเดลมาตรฐานเปิดที่ใช้เพื่อการถ่ายโอนโมเดลการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) ข้ามเฟรมเวิร์กต่าง ๆ เช่น PyTorch, TensorFlow, หรืออื่น ๆ
- ช่วยให้สามารถแปลงโมเดลที่ฝึกในเฟรมเวิร์กหนึ่ง ไปใช้ในอีกเฟรมเวิร์กได้ง่ายขึ้น
PyTorch
- เป็นเฟรมเวิร์กการเรียนรู้เชิงลึกที่เป็นที่นิยม มีการใช้ Python เป็นหลัก เน้นความยืดหยุ่นสูง และใช้งานง่ายสำหรับการพัฒนาและทดลองโมเดล
- เป็นที่รู้จักในด้านการพัฒนาและทดสอบโมเดลที่รวดเร็ว โดยเฉพาะในงานวิจัย
TensorRT
- เป็นไลบรารีของ NVIDIA สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพของโมเดลการเรียนรู้เชิงลึกโดยเฉพาะสำหรับการทำ Inference (การทำนายหรือประมวลผลข้อมูลใหม่)
- ออกแบบมาให้ทำงานได้เร็วขึ้นบน GPU โดยการลดขนาดโมเดลหรือแปลงโมเดลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
TensorFlow
- เป็นอีกหนึ่งเฟรมเวิร์กการเรียนรู้เชิงลึกที่ได้รับความนิยมสูง พัฒนาโดย Google
- มีฟีเจอร์ที่ครอบคลุมทั้งการฝึก (Training) และการทำ Inference (การทำนาย) รองรับการทำงานบน CPU, GPU และ TPU (Tensor Processing Unit)
Weights (น้ำหนักโมเดล)
- ในโมเดลการเรียนรู้เชิงลึก "Weights" หมายถึงค่าสัมประสิทธิ์ (parameters) ที่โมเดลได้เรียนรู้มาจากการฝึก (Training) ใช้ในการปรับปรุงโมเดลให้สามารถทำนายได้ดีขึ้น
- Weights เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการสร้างเครือข่ายประสาทเทียม (Neural Networks)
สรุป:
- Darknet เป็นเฟรมเวิร์กสำหรับ YOLO
- ONNX ใช้แปลงโมเดลระหว่างเฟรมเวิร์ก
- PyTorch และ TensorFlow เป็นเฟรมเวิร์กสำหรับการพัฒนาและฝึกโมเดล
- TensorRT ใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำ Inference
- Weights เป็นค่าสัมประสิทธิ์ในโมเดล
You said:
ChatGPT said:
แต่ละเฟรมเวิร์กหรือเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาและฝึกโมเดลการเรียนรู้เชิงลึกจะมีรูปแบบไฟล์ (นามสกุล) ของ weights ที่แตกต่างกันดังนี้:
Darknet
- Darknet ใช้ไฟล์น้ำหนักสำหรับโมเดลที่ฝึกมาในรูปแบบไฟล์ที่มีนามสกุล
.weights
- ตัวอย่างเช่น:
yolov3.weights
- Darknet ใช้ไฟล์น้ำหนักสำหรับโมเดลที่ฝึกมาในรูปแบบไฟล์ที่มีนามสกุล
ONNX (Open Neural Network Exchange)
- ONNX มีรูปแบบมาตรฐานในการเซฟโมเดลและ weights โดยใช้นามสกุลไฟล์เป็น
.onnx
- ตัวอย่างเช่น:
model.onnx
- ONNX มีรูปแบบมาตรฐานในการเซฟโมเดลและ weights โดยใช้นามสกุลไฟล์เป็น
PyTorch
- PyTorch จะบันทึกโมเดลและ weights ไว้ในรูปแบบของไฟล์
.pth
หรือ.pt
- ตัวอย่างเช่น:
model.pth
หรือmodel.pt
- PyTorch จะบันทึกโมเดลและ weights ไว้ในรูปแบบของไฟล์
TensorRT
- TensorRT มักจะเซฟโมเดลที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพแล้วในรูปแบบ
.engine
- ตัวอย่างเช่น:
model.engine
- TensorRT มักจะเซฟโมเดลที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพแล้วในรูปแบบ
TensorFlow
- TensorFlow สามารถบันทึกโมเดลและ weights ได้หลายรูปแบบ แต่ที่นิยมคือ:
- ไฟล์
.h5
เมื่อใช้การเซฟโมเดลแบบ Keras - โฟลเดอร์ที่มีไฟล์หลายไฟล์ในรูปแบบ SavedModel (ไม่มีนามสกุลเฉพาะ)
- ไฟล์
- ตัวอย่างเช่น:
model.h5
หรือโฟลเดอร์ที่มีไฟล์หลายไฟล์ เช่นsaved_model.pb
- TensorFlow สามารถบันทึกโมเดลและ weights ได้หลายรูปแบบ แต่ที่นิยมคือ:
สรุปนามสกุลไฟล์ที่ใช้สำหรับเซฟ weights:
- Darknet:
.weights
- ONNX:
.onnx
- PyTorch:
.pth
หรือ.pt
- TensorRT:
.engine
- TensorFlow:
.h5
หรือในรูปแบบ SavedModel (ไม่มีนามสกุลเฉพาะ)
You said:
ChatGPT said:
การเริ่มต้นใช้ Python กับ Darknet ใน Windows มีขั้นตอนที่ต้องติดตั้งและเตรียมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ดังนี้:
ขั้นตอน 1: ติดตั้ง Dependencies
ก่อนที่คุณจะใช้งาน Darknet กับ Python ได้ จำเป็นต้องติดตั้ง dependencies ที่จำเป็นต่อการทำงานของ Darknet บน Windows:
ติดตั้ง Python
- ดาวน์โหลดและติดตั้ง Python จาก python.org (แนะนำเวอร์ชัน 3.8 ขึ้นไป)
- ระหว่างการติดตั้ง ให้เลือกตัวเลือก "Add Python to PATH"
ติดตั้ง Visual Studio
- คุณต้องมี Microsoft Visual Studio ที่มีตัวเลือก
Desktop development with C++
สำหรับการคอมไพล์โค้ด C และ CUDA - ดาวน์โหลดจาก Visual Studio (แนะนำให้ใช้ Visual Studio 2019)
- คุณต้องมี Microsoft Visual Studio ที่มีตัวเลือก
ติดตั้ง CUDA และ cuDNN (สำหรับ GPU)
- หากต้องการใช้ GPU ให้ดาวน์โหลด CUDA Toolkit และ cuDNN ที่เข้ากันได้กับการ์ดจอของคุณจากเว็บไซต์ NVIDIA:
ขั้นตอน 2: ดาวน์โหลดและติดตั้ง Darknet
ดาวน์โหลด Darknet
- ดาวน์โหลด Darknet จาก GitHub โดยใช้คำสั่งใน Git Bash (หรือดาวน์โหลด ZIP):bash
git clone https://github.com/AlexeyAB/darknet.git
- หากคุณใช้ Git Bash ให้คลิกขวาในโฟลเดอร์ที่ต้องการติดตั้ง Darknet แล้วเลือก Git Bash Here
- ดาวน์โหลด Darknet จาก GitHub โดยใช้คำสั่งใน Git Bash (หรือดาวน์โหลด ZIP):
ปรับแต่งไฟล์
Makefile
- เปิดไฟล์
Makefile
ใน Darknet และปรับค่าต่อไปนี้เพื่อเปิดใช้งานการสนับสนุน Python และ GPU:GPU=1
(สำหรับการใช้งาน GPU)CUDNN=1
(สำหรับการใช้งาน cuDNN)OPENCV=1
(สำหรับการใช้งาน OpenCV)PYTHON=1
(สำหรับการใช้งาน Python)
- เปิดไฟล์
คอมไพล์ Darknet
- เปิด Developer Command Prompt for Visual Studio และไปยังโฟลเดอร์ Darknet ที่คุณดาวน์โหลด จากนั้นใช้คำสั่งต่อไปนี้เพื่อคอมไพล์:bash
cd path\to\darknet make
- เปิด Developer Command Prompt for Visual Studio และไปยังโฟลเดอร์ Darknet ที่คุณดาวน์โหลด จากนั้นใช้คำสั่งต่อไปนี้เพื่อคอมไพล์:
ขั้นตอน 3: ใช้ Darknet ใน Python
ติดตั้ง Python bindings ของ Darknet
- เปิด terminal (หรือ command prompt) แล้วติดตั้ง libraries ที่จำเป็น:bash
pip install numpy opencv-python
- เปิด terminal (หรือ command prompt) แล้วติดตั้ง libraries ที่จำเป็น:
ใช้ Darknet ผ่าน Python
คุณสามารถสร้างสคริปต์ Python เพื่อใช้ Darknet สำหรับการตรวจจับวัตถุได้ เช่นตัวอย่างด้านล่าง:pythonimport cv2 import numpy as np import darknet # โหลดโมเดล YOLO network, class_names, class_colors = darknet.load_network( "cfg/yolov4.cfg", "data/coco.data", "yolov4.weights" ) # โหลดรูปภาพที่ต้องการตรวจจับ image = cv2.imread("image.jpg") darknet_image = darknet.make_image(darknet.network_width(network), darknet.network_height(network), 3) image_rgb = cv2.cvtColor(image, cv2.COLOR_BGR2RGB) image_resized = cv2.resize(image_rgb, (darknet.network_width(network), darknet.network_height(network))) darknet.copy_image_from_bytes(darknet_image, image_resized.tobytes()) # ทำการตรวจจับวัตถุ detections = darknet.detect_image(network, class_names, darknet_image) darknet.print_detections(detections) # แสดงผลลัพธ์ for label, confidence, bbox in detections: print(f"Detected {label} with {confidence}% confidence")
ขั้นตอน 4: การทดสอบการติดตั้ง
หลังจากคอมไพล์เสร็จและตั้งค่าเสร็จเรียบร้อย คุณสามารถทดสอบการใช้งาน Darknet ได้โดยรันคำสั่ง Python เพื่อตรวจจับวัตถุบนรูปภาพ หรือวิดีโอ
หมายเหตุ: การติดตั้งและใช้งาน Darknet บน Windows อาจจะซับซ้อนกว่าบนระบบปฏิบัติการ Linux หรือ Ubuntu ซึ่งทำให้บางครั้งการคอมไพล์หรือการติดตั้งอาจพบปัญหาจากการขาด dependencies